ยาป้องกันไมเกรนรุ่นใหม่  ความหวังของผู้ป่วยไมเกรนเรื้อรัง

อย่างที่ทราบกันดีว่าอาการปวดหัวไมเกรน  มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น  เช่น  ความเครียด  ความร้อน  การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ

การมีประจำเดือน  หรือได้กลิ่นแปลก ๆ  ไม่พึงประสงค์ เป็นต้น   ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้รอบตัวเรานั่นเอง  ดังนั้น  จึงเป็นไปได้ที่หลายคนจะมีอาการกำเริบได้บ่อย  สร้างความเจ็บปวดทรมานซ้ำ ๆ  จนกลายเป็นอาการปวดไมเกรนเรื้อรังได้

เมื่อไม่นานมานี้  American Headache Society  องค์กรที่ศึกษาและให้ข้อมูลความรู้ด้านการรักษาอาการปวดหัวในรูปแบบต่าง ๆ  จากสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแสดงท่าทีถึงความหวังในยาป้องกันอาการปวดไมเกรนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า  Calcitonin Gene-Related Peptide (CGRP) monoclonal antibodies  ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะช่วยในการรักษาอาการปวดไมเกรนแบบที่เกิดขึ้นบ่อย  และอาการปวดไมเกรนแบบเรื้อรังได้

ทีมนักวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้  ได้สะท้อนให้เห็นปัญหาของการรักษาไมเกรนด้วยยาว่า  ในปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษาอาการปวดหัวไมเกรนนั้นเป็นยารุ่นเก่า ๆ

ซึ่งรุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาและมีการนำมาใช้นั้น  คือ  ยากลุ่มทริปแทน  (triptans)  ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2534  และก็เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดไมเกรน  ไม่ใช่เพื่อป้องกันการปวดไมเกรน

และปัจจุบันผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว ยังขาดการพัฒนายาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการกำเริบของไมเกรนรุ่นใหม่ ๆ ออกมา

จากตัวเลือกที่มีจำกัดในการใช้ยานี่เอง  ทำให้เกิดการประชุมผู้เชี่ยวชาญ 1000 คนจากทั่วทุกมุมโลก  ซึ่งจากการประชุมนี้มีบริษัทยา 4 แห่ง ได้แก่ Alder Pharmaceuticals, Amgen, Eli Lilly and Company และ Teva Pharmaceuticals  ได้นำเสนอถึงความร่วมมือในการศึกษาวิธีป้องกันอาการปวดไมเกรน และพบความเป็นไปได้ในการใช้ยานี้ในคน

โดยยาชนิดนี้จะไปลดระดับของโปรตีนเปปไทด์ที่ชื่อ  Calcitonin Gene-Related Peptide  ซึ่งพบว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน  โดยยาที่ผลิตคิดค้นนี้จะใช้คุณสมบัติของการเป็นแอนติบอดีที่จะไปจับกับโปรตีนเปปไทด์ชนิดนี้เพื่อลดการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนนั่นเอง

จากการทดลองศึกษาผลของยาในอาสาสมัคร  พบว่า  ยาชนิดนี้สามารถป้องกันการกำเริบในรายที่เป็นบ่อยได้  โดยพบว่าลดจำนวนชั่วโมงที่มีอาการปวดลงได้ภายหลังจากใช้ไป 1 สัปดาห์

นอกจากนี้มีอาสาสมัครกว่า 50% ลดความถี่ในการปวดหัวลงได้เช่นกัน  และเมื่อแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม  กลุ่มหนึ่งให้ยาชนิดนี้ และอีกกลุ่มให้ยาหลอก  ติดตามผลการใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน  พบว่าในครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ได้รับยาชนิดนี้มีจำนวนวันที่ปวดไมเกรนลดลงถึง 50% หลังจากใช้ยาไป 12 สัปดาห์

ความเป็นไปได้ของสารประกอบใหม่ชนิดนี้ในการป้องกันอาการปวดไมเกรนนั้น สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยไมเกรนได้เป็นอย่างมาก  และจากกลไกการทำงานของยาที่ออกฤทธิ์ต่อสารที่ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรนโดยตรง

ถ้าสามารถผลิตออกมาเป็นยาและวางจำหน่ายได้จริง ๆ  ก็จะทำให้ผู้ป่วยได้ใช้ยาชนิดใหม่ที่มีความจำเพาะกับการรักษาอาการปวดไมเกรนมากขึ้น  นั่นก็หมายความว่าคุณก็จะได้ใช้ยาป้องกันไมเกรนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

ที่มา : http://www.sciencedaily.com/releases/2015/06/150617091604.htm

Related Posts