การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษที่ใครๆก็รัก แต่ทำไมบางคนถึงพบมันมันยากที่จะหลับได้ล่ะ?
โรคนอนไม่หลับถือ เป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไร พยายามแค่ไหน บางครั้งมันก็ข่มตาหลับไม่ได้เสียที
ไม่ว่าจะพยายามลดละเลิกการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอื่นๆหลังเที่ยง, การไม่กินอาหารจนอิ่มเกินไปก่อนนอน, ปิดไฟ, ปรับบรรยากาศห้องให้เหมาะสมแก่การนอน หรือว่าการที่พยายามนอนเวลาเดิมทุกคืน
แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับได้สนิทจริงๆภาวะนอนไม่หลับส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากความเครียด ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบร่างกาย พอคนเรายิ่งเครียด ยิ่งต้องการการพักผ่อน
แต่หลายคนยิ่งอดหลับอดนอน ทำให้ยิ่งเพิ่มความเครียดเข้าไปใหญ่
เราขอแนะนำว่า ถ้าคุณมีภาวะนอนไม่หลับ โดยดูได้จากการที่พยายามนอนหลับตาบนเตียงซักพักแล้วยังไม่มีวี่แววที่จะง่วงหรือหลับได้เสียที ให้ลุกออกมาจากที่นอน ไม่จำเป็นต้องพยายามฝืนตัวเองให้หลับ ลองเปลี่ยนเป็นทำกิจกรรมอื่นๆดังนี้
1. ลงแช่ในน้ำอุ่น
คนที่บ้านมีอ่างอาบน้ำอย่ามัวแต่คิดว่ามันนะเปลืองน้ำเกินไป เพราะการเปลืองน้ำไม่เทียบเท่ากับความเครียดที่กำลังทำร้ายร่างกายเรา การลงแช่ในน้ำอุ่นจะช่วยให้บรรเทาและชโลมร่างกายและจิตใจ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงได้ทันที
นอกจากนั้นให้ลองผสมเกลือสปาที่มีกลิ่นหอม หรือน้ำมันอโรมาเช่นน้ำมันลาเวนเดอร์ลงไปในน้ำด้วย จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
คนที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ อย่าใช้ฝักบัวเด็ดขาด เพราะปกติแล้วการอาบน้ำฝักบัวจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นเข้าไปอีก การอาบน้ำฝักบัวเหมาะกับช่วงเวลาที่ต้องการความสดชื่น เช่น ตอนเช้า ถ้าคุณต้องการการผ่อนคลาย ให้ใช้การแช่น้ำอุ่นจะดีที่สุด นอกจากนี้การจุดเทียนหอมหรือเปิดเพลงเบาๆคลอไปด้วยจะช่วยให้จิตใจสงบมากขึ้น
2. ดื่มนมอุ่นๆก่อนนอน
การดื่มนมอุ่นๆก่อนนอนมีผลทำให้ร่างกายสงบและผ่อนคลายลงได้ ซึ่งจะทำให้คนเรานอนหลับสบายขึ้น เพราะว่านมมีส่วนผสมของอะมิโน เอสิดที่สามารถสร้างความรู้สึกง่วงนอนได้เช่นกัน และยังสามารถช่วยให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนิน ซึ่งมีผลต่อด้านอารมณ์ผ่อนคลายและความสุขออกมามากขึ้น จึงทำให้นมอุ่น 1 แก้วก่อนนอนช่วยให้ร่างกายปรับสภาพเตรียมพร้อมกับการนอนได้เป็นอย่างดี
ที่ไม่แนะนำนมเย็นเพราะว่าความเย็นจะทำให้ร่างกายตื่นตัว และร่างกายเราจะต้องทำงานเพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายให้สมดุลอีก จึงทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักมากขึ้นก่อนนอน และอาจไม่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น
สำหรับคนที่ไม่ชอบนมอุ่นๆ ให้ลองหยดกลิ่นวานิลลาลงไปก็ได้ จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมน่าดื่มมากขึ้น แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบนมสด ลองเปลี่ยนเป็นชาคาโมมายด์ก็ได้เช่นกัน ดื่มชาคาโมมายด์อุ่นๆก่อนนอนจะช่วยให้หลับสบายมากขึ้น
3. หาอะไรทำ
เช่น อ่านหนังสือ (ที่ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้น สยองขวัญ) หรืออาจจะดูรายการทีวีที่น่าเบื่อนิดหน่อย โดยการเปิดเสียงวอลุ่มให้เบาๆ จะช่วยให้สมองของเราทำงานช้าลง เมื่อดูเพลินๆไปเรื่อยๆอาจจะหลับตรงนั้นเลยก็ได้
หรือไม่ก็อาจหาอะไรทำที่ใช้สมาธิและไม่กระตุ้นการทำงานของสมองมาก เช่น เย็บปักถักร้อย, เขียนจดหมาย, ทำ Scrapbook โดยให้เลือกกิจกรรมที่ง่ายๆ
4. เอาตัวเองออกจากความเครียดเสีย
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คนเรามักทำคือการที่นอนหรือนั่งอยู่บนเตียง และไม่ยอมให้สมองพัก วนเวียนคิดถึงแต่สิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ ไม่ปล่อยวางสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และยังจะกังวลคิดถึงงานของพรุ่งนี้หรืออนาคต บอกไว้เลยว่าความกังวลไม่ช่วยให้งานสำเร็จหรอกนะ ดังนั้นไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว
ถ้าเกิดยังไม่เลิกกังวล ให้ลุกขึ้นมาจากเตียงและเขียนโน้ต “สิ่งที่ต้องทำ” เพื่อที่จะไม่ลืมว่าพรุ่งนี้หรือวันต่อๆไปควรทำอะไร จากนั้นให้ปล่อยวาง และนอนหลับพักผ่อนดีกว่า
5. เสียงบางเสียงก็ช่วยได้
มีคำแนะนำบอกว่ายิ่งห้องเงียบและมืดสนิทเท่าไหร่ ยิ่งหลับสนิทและหลับง่ายยิ่งขึ้นใช่ไหม? สำหรับบางคนมันก็เวิร์คนะ สิ่งที่ควรทำคือปิดไฟ ปิดม่าน ทำให้ห้องเรามืดที่สุด หรือไม่ถ้าห้องยังมีแสงอื่นเล็ดลอดเข้ามาอีก ก็ให้ใช้ผ้าปิดตาที่เอาไว้คาดเวลานอน
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เสียงบำบัดการนอนไม่หลับได้ บางคนรู้สึกว่าห้องเงียบเกินไป วังเวงและนอนไม่หลับ
คุณอาจลองเปิดเพลงบรรเลงเบาๆหรือเสียงธรรมชาติที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย รู้สึกเบาสมอง จิตใจสงบ ก็จะช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
6. รับฟังร่างกายของเรา
ร่างกายของคนเรามักมีสัญญาณเตือนอยู่เสมอถึงความผิดปกติของระบบร่างกาย แต่คนส่วนใหญ่มักมองว่าไม่สำคัญและไม่พยายามทำความเข้าใจมัน ข้อสังเกตได้ง่ายของคนที่มีอาการนอนไม่หลับคือ ร่างกายของคุณมีอาการตึงเครียดตรงส่วนไหนหรือเปล่า? เช่น ศีรษะ บ่า คอ ไหล่ หรือกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย ไม่ผ่อนคลาย
การนวดอโรมาจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้ เมื่อร่างกายเราคลายลง เราจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หลายคนที่มีความเครียดสะสมเลือกที่จะไปนวดสปาผ่อนคลาย ซึ่งที่พบได้มากคือ ผู้ถูกนวดจะรู้สึกผ่อนคลายมากจนสามารถหลับได้ขณะนั้นเลยทีเดียว
นอกจากนี้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อในแต่ละกลุ่มกล้ามเนื้อก็ช่วยได้เช่นกัน แต่อาจต้องทำอย่างระมัดระวังหน่อย เริ่มจากการวอร์มร่างกายให้อบอุ่นโดยการวิ่งจ้อกกิ้งอยู่กับที่เบาๆซัก 5-10 นาที พอร่างกายเริ่มอบอุ่น เราก็สามารถทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆได้ โดยใช้ท่าโยคะ ฝึกการหายใจเข้าออกลึกๆไปด้วย จะช่วยให้ระบบร่างกายเข้าที่เข้าทาง และกลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเมื่อร่างกายหายตึงเครียด เราก็จะนอนหลับได้ง่ายขึ้น
มนุษย์เรานอนหลับเป็นเวลาถึง 1 ส่วน 3 ของช่วงเวลาชีวิต บางคนมองว่าการนอนหลับเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและทำให้เสียเวลาในการทำสิ่งต่างๆ แต่การคิดแบบนี้ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ คนเราเมื่อยังเด็กหรือหนุ่มสาว การอดนอนเป็นประจำอาจยังไม่ก่อให้เกิดผลเสียมากเท่าใดนัก
แต่ถ้าหลังอายุ 30 ขึ้นไป เราจะเริ่มเห็นผลเสียของการนอนหลับไม่เพียงพอว่า สามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย สมองทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ รู้สึกเหนื่อย เพลีย ไม่สดชื่น ดังนั้นอย่ามองข้ามคุณภาพของการนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพทั้งกายและใจที่แข็งแรง