ภูมิแพ้ (Allergy) คือ โรคที่เกิดจากความไวผิดปกติของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ (Allergen)
เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ อาหาร หรือยาบางชนิด ฯลฯ ซึ่งมีกลไกที่ก่อให้เกิดอาการแพ้โดยเกิดจากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยมากับอากาศที่ผิวเยื่อบุในโพรงจมูก จนเกิดอาการบวม และมีสารคัดหลั่งปรากฏออกมาภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีpixa
เพื่อต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุภายในโพรงจมูก ทำให้เกิดอาการคัดจมูก มีน้ำมูกไหล
เมื่ออาการแพ้เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงโดยไม่เผชิญหน้ากับสารดังกล่าวจึงเป็นหลักสำคัญ ซึ่งมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้มากที่สุด หากมีอาการแพ้มากให้รักษาโดยการใช้ยาที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่ถ้าใช้ยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 7 วัน ก็ควรรีบไปพบแพทย์
- เปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อทำให้อากาศมีความชื้นต่ำ ซึ่งเป็นสภาวะที่ตัวไรและเชื้อราไม่ชอบ นอกจากนี้ เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ยังมีความสามารถในการฟอกอากาศ และกรองฝุ่นละออง รวมทั้งป้องกันเกสรดอกไม้ต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอกบ้านได้ จึงถือเป็นการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสารก่อภูมิแพ้ที่ดี และถ้าหากต้องการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศก็ควรเลือกที่ได้มาตรฐาน และมีขนาดพอเหมาะกับขนาดของห้องด้วย
- ใช้ผ้าปิดปากและจมูกทุกครั้ง เมื่อจะต้องทำความสะอาดบ้านด้วยตนเอง และทำความสะอาดบริเวณที่อับชื้นโดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อราผสมอยู่
- หลีกเลี่ยงการใช้พรมในบ้าน และควรหมั่นซักปลอกหมอน และผ้าปูที่นอนในน้ำร้อนบ่อย ๆ
- หากไม่สามารถทำบ้านทั้งหลังให้ปลอดจากสารก่อภูมิแพ้ได้ ก็ควรทำห้องนอนให้เป็นเขตปลอดสารก่อภูมิแพ้ให้ได้ เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในห้องนอนมากกว่าห้องอื่น ๆ และไม่ควรเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้าน แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้จำกัดบริเวณของสัตว์เลี้ยงอย่าให้เข้าไปในห้องนอนของผู้ป่วย
นอกจากวิธีปฏิบัติเพื่อลดการเผชิญหน้ากับปัญหาภูมิแพ้ดังกล่าวแล้ว ยังจะต้องดูแลตนเองด้วยการรับประทานผักสดและผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง ลิ้นจี่ ผักคะน้า และมะเขือเทศสีดา ฯลฯ เป็นประจำ เพราะวิตามินซีมีคุณสมบัติเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว ซึ่งจะทำให้ร่างกายแข็งแรง และสามารถกำจัดเชื้อโรคได้ดี
