สังเกตไหมคะว่าปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาให้ความใส่ใจต่อการออกกำลังกาย และดูแลอาหารการกินของตัวเองกันมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการใช้ยาลดน้ำหนักอันตรายลดจำนวนลงไปเป็นอย่างมาก นี่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์อันดีที่จะช่วยให้ผู้คนในสังคมมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตให้น้อยลงไปด้วย
การออกกำลังกายทางเลือกมากมายจึงปรากให้เราได้ยินชื่อแปลกใหม่กันมากขึ้น อย่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่กำลังกลายเป็นกระแสมาแรงและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่คนรักสุขภาพ นอกจากนั้นยังมีทางเลือกการกินอาหารที่เรียกว่า “clean food”เข้ามามีบทบาทต่อสุขภาพของเรา เช่นเดียวกันกับอาหาร“Lowcarb”ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและสำหรับการออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
เมนู Low carb คืออะไร
เมนูอาหารทางเลือกชนิดนี้คือ การวิถีการเลือกกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานต่ำ หรือลดการกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง เป็นการหลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล แต่ไม่ใช่การอด เพียงแค่ให้ร่างกายได้รับในสัดส่วนที่น้อยลงจากเดิม
ที่มาของการถือกำเนิดการกินแบบ Low carb
การกินที่กำลังเป็นกระแสยอดฮิตตัวนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใดค่ะ แต่ทฤษฎีนี้ถูกใช้เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักมาแล้วอย่างมากมาย โดยแนวคิดจริงๆ ของการกินแบบนี้คือการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลงในแต่ละมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับในปริมาณน้อยๆ แต่ไม่ถึงกับงดจนทำให้ร่างกายรู้สึกผิดปกติ พยายามหลีกเลี่ยงแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายต่ำ แต่หันไปเลือกกินคาร์โบไฮเดรตจากแหล่งที่ดีกว่า เช่น การเปลี่ยนจากกินขาวขัดสีเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ เปลี่ยนการกินน้ำตาลทรายขาวเป็นน้ำตาลทรายแดงหรือกินจากหญ้าหวานทดแทน
ส่วนบางคนที่ไม่ต้องการรับเอาคาร์โบไฮเดรตจากสิ่งเหล่านี้ ยังสามารถเลือกรับจากผักและผลไม้ที่ล้วนก็มีปริมาณแป้งสะสมอยู่เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง เป็นเพราะว่าร่างกายจะมีวงจารเปลี่ยนสารชนิดนี้ให้กลายเป็นน้ำตาล ซึ่งจะถูกนำเอาไปใช้เป็นพลังงานในการเคลื่อนไหวร่างกายและทำกิจกรรมต่างๆ หากร่างกายได้รับในปริมาณมากเกินความจำเป็น ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนสภาพเป็นไขมันสะสมอย่ตามชั้นผิวหนังจนมีน้ำตัวเกินและเข้าสู่ภาวะอ้วนตามมา
หลักการงดคาร์โบไฮเดรตแบบให้ร่างกายเกิดความสมดุล
การงดแป้งไม่ใช่การอด เราเน้นย้ำในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะการอดจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว อีกทั้งเหล่าสำนักที่ต้องการสอนให้คนลดน้ำหนักด้วยการกินโดยนำเอาทฤษฎีแบบผิดๆ มาบอกสอน หากอยากผอมเร็วๆ ต้องใช้วิธีอดแป้ง น้ำตาล และอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตทุกชนิด ความเชื่อแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์และหากใครลงมือทำก็จะต้องประสบกับผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากสามารถประสบความสำเร็จกับการลดน้ำหนักไปแล้ว
การกินที่ดีคือการเลือกกินอย่างสมดุลกับความต้องการของร่างกาย โดยสำหรับมือใหม่จะต้องเข้าใจก่อนว่าร่างกายต้องการพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตประมาณ 300 กรัมต่อวัน จะมีการแบ่งช่วงเวลากินอย่างเหมาะสมและเป็นไปอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายถูกหักดิบ ในช่วงเริ่มต้นประมาณ 2 สัปดาห์แรกให้เน้นการกินโปรตีนเป็นหลัก ลดอาหารประเภทแป้งลงให้ได้น้อยที่สุดเหลือประมาณ 5-10 กรัมมื้ออาหาร ในช่วงระยะนี้เราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย กล้ามเนื้อจะเริ่มกระชับ น้ำหนักตัวลดลง เริ่มเห็นส่วนโค้งเว้ามากขึ้น
ซึ่งสิ่งนี้จะต้องทำควบคู่กับการออกกำลังกายด้วยจึงจะให้ผลอย่างชัดเจน หลังจากนั้นร่างกายจะเข้าสู่ช่วงที่มีปริมาณกล้ามเนื้อมากขึ้น เราก็จะสามารถกลับมากินคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นได้ในสัปดาห์ที่ 3 โดยให้รับประมาณ 25 กรัมต่อวัน และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ก็ให้เพิ่มเป็น 35 กรัมต่อวัน ให้กินแบบนี้ไปเรื่อยอย่างต่อเนื่องจนพบว่าร่างกายของตัวเองมีน้ำหนักคงที่
แม้ว่าจะกินน้อยแค่ไหนน้ำหนักตัวก็ไม่ลดลงไปอีก โดยในช่วงนี้ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่การปรับตัว ให้เพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อไปอีกสัปดาห์ละ 10 กรัมจนน้ำหนักตัวเกิดความคงที่แม้ว่าจะเพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อไป จากนั้นร่างกายจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการกิน ที่สามารถเลือกกินได้หลากหลายมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักตัวอีกต่อไป แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานควบคุมคาร์โบไฮเดรต อย่างน้อยควรจะได้รับประมณ 5-10 กรัมในแต่ละมื้อ
การลดน้ำหนักด้วยการกินแบบโลวคาร์บสำหรับหลายคนอาจจะดูยุ่งยาก และทำไม่ได้ แต่หากใครที่มีความตั้งใจต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง การกินแบบนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพดี อย่างไรก็ตามการกินคารฺโบไฮเดรตตามจะไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเก๊าเนื่องจากไตจะทำงานหนัก ส่งผลให้ร่างกายขับของเสียออกมากจนอาจจะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้
