5 วิธีป้องกันผิวสวยไม่ให้ถูกทำลายจากการอาบน้ำ

สาวๆ เราทราบกันดีว่าหากต้องการมีผิวสวยใส การรักษาความสะอาดผิวด้วยการอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ หากการอาบน้ำก็ยังคงมาพร้อมปัญหาที่ผู้หญิงเรามักมองข้ามจนทำให้เกิดผิวแห้ง ลอก แตกเป็นขุยตามมาจนกระทั่งกลายเป็นโรคผิวหนังอย่างกลากเกลื้อน

ไม่ว่าจะเป็นการล้างคราบฟองสบู่ออกไม่หมดหรือแม้แต่การอาบน้ำอุ่นที่ค่อนไปในทางร้อนจัดด้วยก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น งานนี้ทาง ดร.เฮเทอร์ วูเลย์ ลอยด์ นายกสมาคมผิวหนังและความงามในนิวยอร์กจึงได้ระบุให้ผู้หญิงเราได้ทราบถึง 5 วิธีของการทำร้ายผิวที่เกิดขึ้นจากการอาบน้ำมาแนะนำกัน

เมื่อทราบกันแล้วหวังว่าสาวๆ จะได้นำมาปฏิบัติตามเพื่อป้องกันผิวสวยไม่ให้ถูกทำลาย มีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ

5 วิธีป้องกันผิวสวยไม่ให้ถูกทำลายจากการอาบน้ำ

1. อาบน้ำที่มีอุณหภูมิร้อนจัดเป็นเวลานานเกินไป
การอาบน้ำอุ่นมีผลดีต่อระบบการไหลเวียนโลหิตและทำให้ร่างกายได้รับการผ่อนคลายอยู่แล้ว ทว่าหากเราปรับอุณหภูมิของน้ำให้ค่อนไปในทางร้อนจัดและอาบหรือแช่เป็นเวลานานจนเกินไปก็ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อการมีผิวสวยได้เช่นกัน เพราะอุณหภูมิของน้ำที่ร้อนแบบนี้จะทำลายความชุ่มชื้นของผิวทำให้ผิวแห้งกร้าน แตก ลอกเป็นขุยได้นั่นเอง ดร.วูเลย์จึงกล่าวไว้ว่า “การที่อาบน้ำร้อนเป็นเวลานานจะทำให้ผิวของสาวๆ เราเกิดอาการแห้ง ลอก เนื่องจากเกิดการสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ

ขณะเดียวกันนั้น ยังกลายเป็นสาเหตุที่นำมาสู่โรคกลากเกลื้อนและมีอาการคันตามมาพร้อมกันได้ด้วย” ดังนั้น หากสาวๆ อยากให้ผิวสุขภาพดีคงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นอยู่เสมอ แนะนำนะคะว่าให้อาบน้ำอุ่นในช่วงเวลาอันสั้นเท่านั้น โดยควรอาบไม่เกิน 15 นาทีกำลังดีค่ะ เพียงเท่านี้ก็นับว่าเพียงพอแล้วและหลังจากอาบน้ำเสร็จอย่าลืมรีบชโลมโลชั่นสูตรบำรุงผิวชนิดเข้มข้นตามทันทีนะคะ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้อยู่คู่กับผิวสวยไปนานๆ นั่นเอง

2. ระวังฟองของสบู่เหลวตกค้างอาจทำให้ระคายเคืองผิว
สาวๆ เรามักมีความเชื่อกันว่าการที่เราเลือกใช้สบู่อาบน้ำที่มีฟองมากๆ นั้นจะทำให้ผิวพรรณของเราสะอาดใสผุดผ่อง หากแท้จริงแล้ว ถ้าเราล้างไม่สะอาดหมดจดฟองเหล่านั้นเกาะเป็นคราบรอทำลายผิวเราต่อไปได้ด้วยนะคะ เนื่องจาก ดร.ลอยด์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า “เจลที่เราใช้ทำความสะอาดผิวขณะอาบน้ำหากมีฟองมากเกินไปก็ย่อมมาพร้อมสารเคมีซึ่งเป็นตัวการลดแรงตึงของผิวส่งผลให้ชั้นผิวหนังแยกและเกิดการหดตัวจึงทำให้เกิดการสูญเสียน้ำและน้ำมันจากสารเคมีเหล่านี้ขึ้นได้

ดังนั้น ปัญหาที่ตามมาคือจะมีอาการลอกบนผิวพร้อมกับการมีผิวที่หยาบแห้งกร้านอันเนื่องมาจากการใช้สบู่เหลวที่มีฟองมากจนเกินไปนั่นเอง ” เพราะฉะนั้น หากสาวคนไหนกลัวว่าจะมีผิวแห้งหยาบร้าน มาพร้อมอาการคันลอกยิบๆ อีก แนะนำว่าควรหันมาใช้สบู่เหลวสูตรอ่อนโยนแบบบางเบาหรือใช้แบบของเด็กเล็กก็ช่วยถนอมผิวคุณได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ

3. ล้างฟองผลิตภัณฑ์ออกจากร่างกายไม่สะอาดหมดจด
เคยกันหรือไม่คะเวลาที่เราอาบน้ำแบบเร่งรีบมากๆ จนทำให้เราขาดการละเลยและไม่ทันได้พิถีพิถันใส่ใจในเรื่องของการล้างคราบฟองสบู่ออกจนสะอาดมากนัก สิ่งที่พบตามมาคือมีคราบสบู่ติดตามเนื้อตัวหรือแม้แต่ซอกคอและสาวๆ ทราบไหมว่าหากคุณเช็ดคราบสบู่ออกในขณะที่ผิวแห้งอยู่นั้นมันจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังและก่อให้ผิวเกิดความแห้งกร้านตามมาได้ นี่คือคำเตือนจากแพทย์ผิวหนังอย่างแท้จริงค่ะ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสบู่ที่สาวๆ ใช้ด้วยว่ามีฤทธิ์ร้ายแรงแค่ไหน หากเป็นสบู่อ่อนโยนก็อาจจะไม่ได้มีฤทธิ์ให้ระคายเคืองผิวมากนัก อย่างไรก็ตาม

เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น แนะนำให้สาวๆ หาซื้อสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยนเท่านั้นและควรใช้ประเภทที่มีครีมบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวพรรณแห้งกร้านตามมานั่นเอง แต่จะให้ดีอย่าลืมคำแนะนำจาก ดร.ลอยด์ที่บอกไว้ว่า “การอาบน้ำแล้วชำระล้างสบู่ออกจนหมดจดจากผิวนั้นย่อมดีที่สุด”

4. มาส์กหน้าบำรุงผิวก่อนการล้างหน้าทุกครั้ง
โดยปกติ เมื่อสาวๆ เราต้องการมาส์กหน้าเพื่อเติมสารสกัดจากอาหารธรรมชาติลงสู่ผิวเรามักจะทำการล้างหน้าก่อนเสมอแล้วตามด้วยการมาส์กหน้าจริงไหมคะ แต่ ดร.ลอยด์ ได้อธิบายไว้ว่า “แท้จริงแล้ว การมาส์กหน้าควรมาส์กก่อนการล้างหน้า เพราะการล้างหน้าให้สะอาดก่อนจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวหน้าของเราแห้งยิ่งขึ้น” และสิ่งที่น่าสนใจเหนือกว่านั้นก็คือในหลังจากที่เราล้างหน้าไปแล้วช่วงเวลาหลังจากนั้นผิวหน้าของเราจะมีการดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น นี่อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าของสาวๆ เกิดความระคายเคืองได้มากยิ่งขึ้น สำหรับแพทย์ผิวหนังได้กล่าวไว้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เรามาส์กหน้านั้นหากมีส่วนผสมของน้ำมันด้วยจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวตามมาได้ด้วย ดังนั้น จงหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียและหมั่นทำตามคำแนะนำจากเราดีกว่านะคะ

5. ซับผิวด้วยผ้าขนหนูผืนนุ่มเท่านั้น
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วสาวๆ เรามักรีบคว้าผ้าขนหนูเช็ดตัวแรงๆ กันเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวด้วยแล้วเป็นต้องรีบเช็ดแรงๆ เพื่อจะได้แต่งตัวกันเร็วๆ จริงมั้ยคะ แต่การเช็ดถูตัวแรงเพื่อให้ผิวแห้งเร็วนั้นเป็นการกระทำที่ทำลายผิวโดยตรงอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำว่า”ควรใช้ผ้าขนหนูผืนนุ่มเท่านั้นซับเบาๆ ตามผิวหนังของเราเพื่อเป็นการช่วยป้องกันน้ำมันใต้ผิวให้คงอยู่และไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านอีกหลังจากอาบน้ำอีกด้วย”

และเพื่อเป็นการถนอมผิวของสาวๆ เราให้คงอยู่ไปอย่างยาวนาน ดร.ลอยด์ ได้กล่าวแนะนำไว้เพิ่มเติมอีกว่า “คุณควรเติมความชุ่มชื้นสู่ผิวทันทีหลังจากอาบน้ำด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดเข้มข้น โดยเฉพาะในบริเวณจุดที่ผิวค่อนข้างแห้งเร็วอย่างแขน ขาและอวัยวะในส่วนต่างๆ”

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ จากที่เมื่อก่อนเราอาจจะเคยทำผิดพลาดมาแล้วหลายครั้งในการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย แต่ก็ไม่ทันนึกว่าบางสิ่งที่เราทำไปเพื่อให้ผิวสวยสะอาดสะอ้านอาจจะเป็นการกำลังทำลายผิวของเราเองโดยไม่รู้ตัวไม่ว่าจะเป็นการใช้สบู่ที่มีฟองมากๆ และฟองนั้นเราก็เข้าใจกันว่ามันจะยิ่งทำให้ผิวสะอาดมากยิ่งขึ้น

แต่แท้จริงแล้วมันมีสารเคมีเจือปนมาด้วยเสมอ หากสาวๆ ล้างออกไม่สะอาดสารเคมีก็ย่อมตกหล่นบนผิวหนังและก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวหนังเหี่ยวแห้งและมีผิวแก่ก่อนวัยอันควรตามมาได้อีกด้วย รวมจนถึงการเช็ดตัวแรงๆ ก็ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยด้วยเช่นเดียวกัน

ดังนั้น เมื่อทราบ 5 วิธีดังนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามเพื่อปกป้องผิวให้คงความสวยนุ่มชุ่มชื้นหลังจากอาบน้ำกันทุกครั้งนะคะ

Photo Credit: stevendepolo via Compfight cc

Related Posts