เคล็ดลับฉลาดเลือก "น้ำมันทําอาหาร" เพื่อสุขภาพที่ดี

ในแต่ละวันร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนตั้งแต่คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารภทำงานได้อย่างปกติ และเป็นการช่วยดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากอาการเจ็บป่วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลในสังคมปัจจุบันคือ พฤติกรรมการเลือกกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ส่งผลให้ร่างกายขาดสารที่มีความจำเป็น โดยส่วนมากอาหารที่กินจะอุดมไปด้วยไขมันในปริมาณสูง โดยเฉพาะอาหารตามสั่งที่จะใช้วิธีผัดเป็นหลัก ในแต่ละวันเราจึงแทบหลีกเลี่ยงการรับเอาไขมันเข้าสู่ร่างกายไม่ได้เลย

แต่ใช่ว่าน้ำมันจะไม่มีประโยชน์เสมอไป หากเพื่อนๆ คนไหนรักสุขภาพและต้องการหันมาประกอบอาหารด้วยตัวเอง เมนูที่ต้องใช้น้ำมันทําอาหารเป็นส่วนประกอบ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อยและพกพาไปกินนอกบ้านได้สะดวกกว่าเมนูประเภทอื่นๆ

ซึ่งหากใครต้องการใช้น้ำมันในการปรุงอาหารก็ต้องหันมาฉลาดเลือกน้ำมันทําอาหารที่ดีต่อร่างกาย ใช้ในสัดส่วนที่พอเหมาะ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้น เราลองมาพิจารณากันดีกว่า ว่าน้ำมันทําอาหารอะไรดีที่สุด และเหมาะสมกับการปรุงอาหารมากที่สุด

Photo Credit: star5112

น้ำมันถั่วเหลือง

การใช้น้ำมันถั่วเหลืองถือเป็นน้ำมันที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ซึ่งในน้ำมันชนิดนี้มีปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวปานกลางเมื่อเทียบกับน้ำมันพืชอื่นๆ เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำจะทำให้เกิดไขได้ง่าย การปรุงอาหารเมื่อผ่านความร้อนในระดับสูงเป็นเวลานานๆ เสี่ยงที่น้ำมันจะสร้างสารอนุมูลอิสระออกมาได้ง่าย ดังนั้น น้ำมันชนิดนี้จึงไม่ค่อยเหมาะกับการเอาไปใช้ซ้ำหลายครั้ง หรือใช้ทำอาหารที่ต้องผ่านความร้อนเป็นเวลานาน

น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนรักสุขภาพ เนื่องจากมีปริมาณของไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งมีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด ต่อต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้หลอดเลือดหัวใจมีความแข็งแรง ชะลอการเกิดริ้วรอยระหว่างวัย ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวและลดปัญหาความจำเสื่อม แต่ข้อเสียของน้ำมันมะกอกคือไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำอาหารผ่านความร้อน เนื่องจากเกิดควันได้ง่าย รสชาติอาหารที่ผ่านการปรุงจะมีรสชาติของน้ำมันมะกอกผสมอยู่และมีราคาแพง มันจึงมักถูกใช้ในการทำเมนูสลัดหรือใช้ราดอาหารให้กลายเป็นเมนูสุขภาพมากกว่า

น้ำมันปาล์ม

อีกหนึ่งประเภทของน้ำมันทำอาหารที่มีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด และมักพบว่ามันถูกใช้เป็นน้ำมันในการปรุงอาหารมากกว่าน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งน้ำมันชนิดนี้มีข้อดีคือไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ทำอาหารได้อร่อยโดยเฉพาะเมนูของทอดกรอบ ส่วนข้อเสียของมันคือไม่ดีต่อสุขภาพเท่าใดนัก เนื่องจากมีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง ดังนั้น การรับน้ำมันชนิดนี้เข้าไปบ่อยๆ เสี่ยงที่ร่างกายจะเกิดคลอเลสเตอรอลสูงและตามมาด้วยโรคอื่นๆ ได้ง่าย

เคล็ดลับเลือกน้ำมันเพื่อการทำอาหารอย่างเหมาะสม

พอจะทราบกันไปคร่าวๆ แล้วว่าน้ำมันทําอาหารแบบไหนให้คุณและโทษแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งหากเป็นคำแนะนำก็คงจะขอแนะน้ำมันมะกอกเป็นส่วนประกอบของการปรุงอาหารที่น่าพึงพอใจและดีต่อสุขภาพมากที่สุด แต่มันไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารผ่านความร้อนสูง

ดังนั้น การเลือกน้ำมันทำอาหารอย่างชาญฉลาดจะต้องคำนึงถึงความร้อนในการปรุงเป็นหลัก หากเป็นเมนูผัดก็อาจจะใช้น้ำมันถั่วเหลือง เนื่องจากใช้เวลาในการทำไม่นาน ส่วนกรณีใช้ความร้อนสูงติดต่อกันเป็นเมนูทอดกรอบ ก็อาจจะใช้น้ำมันปาล์ม ส่วนเมนูที่ไม่ผ่านความร้อนเลยก็หันมาใช้น้ำมันมะกอกเป็นส่วนประกอบแทน

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงไม่ว่าจะเป็นไขมันชนิดไหนๆ หากได้รับมากเกินไปก็ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราต้องควบคุมปริมาณไขมันที่ควรได้รับต่อวัน หันมาเลือกกินอาหารที่ปรุงอย่างหลากหลาย เช่น การนึ่ง ต้มหรือลวกบ้างก็จะช่วยให้ร่างกายไม่ต้องรับเอาไขมันส่วนเกินจนเกิดโทษขึ้นมาได้นั่นเองค่ะ